วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

MP3 เพลงฮิต มาจากคำว่า MPEG1- Audio Layer 3

MP3 เพลงฮิต มาจากคำว่า MPEG1- Audio Layer 3 (ไม่ใช่ MPEG3 อย่างที่หลายๆคนเข้าใจกันนะครับ) สำหรับคำว่า MPEG นั้น
เป็นคำที่ย่อมาเพื่อใช้เรียกเป็นมาตรฐาน โดยเรียกย่อมาจากตามองค์กรซึ่งเป็นผู้ที่ได้ริเริ่มมาตรฐานการบีบอัดภาพเคลื่อนไหว
โหลดเพลงฟรี และเสียง ซึ่งชื่อเต็มขององค์กรนี้ก็คือ Motion Picture Experts Groups (อักษรตัวใหญ่รวมได้เป็นคำว่า MPEG นั่นเอง) โดย ศูนย์รวมเพลง
เริ่มจัดตั้งมาเมื่อช่วงประมาณปลายปี 1997 (เดือนจำไม่ได้ ;p) ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องของ MPEG ไปหาอ่านได้ที่เว็บไซท์ โค้ดเพลงhi5
ของเค้าที่ ฟังเพลงออนไลน์ โค้ดเพลงhi5
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมาตรฐานของ MPEG ก็เพื่อกำหนดมาตรฐานของการบีบอัด (Compress) ไฟล์ข้อมูลเกี่ยวกับ
ภาพเคลื่อนไหวและเสียง เพื่อให้การบีบอัดนั้นนำไปสู่ความสามารถบีบอัดให้ได้ขนาดไฟล์ที่เล็กลงโดยยังคงคุณภาพ (Quality)
ของไฟล์ต้นฉบับ (Raw) ไว้ให้ได้มากที่สุด โหลดเพลง mp3 โหลดเพลง mp3 เช่นการตัดช่วงของเสียงต่างๆที่เป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากไฟล์ต้นฉบับเพื่อลด
ขนาดของไฟล์ที่จะบันทึกให้เล็กลง เป็นต้น โหลดเพลง mp3 ">โหลดเพลง mp3

Wave Files กับ MP3 มิวสิกวีดีโอ mv
ดาวน์โหลดเพลง
แต่เดิมการบันทึกเสียงลงในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจะทำโดยการบันทึกเป็นรูปแบบ (Format) ที่เราเรียกว่า เวฟไฟล์ (Wave
Files)โหลดmp3 ">โหลดmp3 ซึ่งมีส่วนขยาย (หรือบางคนเรียกว่านามสกุล) ริงโทน fullsong เป็น .wav ซึ่งเป็นการบันทึกที่ได้คุณภาพเสียงสูงที่สุด โดยไม่มีการลดทอน
คุณภาพของเสียงต้นฉบับ ซึ่งจะแตกต่างจากเสียงต้นฉบับหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบภายนอกอื่น ๆ ด้วย เช่น คุณภาพของ
อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการบันทึก โหลดเพลง (ยกตัวอย่าง : คุณภาพของสาย,ไมโครโฟน หรือ เสียงและสัญญาณรบกวนต่าง เป็นต้น)
ดาวน์โหลดVampires เรียกได้ว่ามาเท่าไหร่บันทึกเท่านั้นทำให้ในการบันทึกไฟล์เป็นเวฟไฟล์นั้น เราจะได้ขนาดไฟล์ประมาณ 10 MBytes ต่อเวลาที่ใช้
บันทึกเสียง 1 นาที หมายความว่าถ้าเราบันทึกเสียงหรือเพลงทั่วไป ที่มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 3-5 นาทีต่อเพลงแล้วล่ะก็ เราจะ
ต้องใช้พื้นที่ในการบันทึกประมาณ โหลดเพลง 30-50 MBytes ทั้งเพลงใหม่ ต่อเพลงเลยทีเดียว เพลงฮิต
ทว่าหลังจากได้มีการนำเอารูปแบบการบันทึกเสียงในแบบ MP3 เข้ามาใช้กัน ทำให้ขนาดที่เราจะต้องสูญเสียพื้นที่ในการจัด
เก็บไฟล์เสียงนั้นน้อยลงกว่าเดิมราวๆ 10 เท่า ซึ่งก็คือ ไฟล์เสียง 1 นาที สามารถบันทึกได้ด้วยพื้นที่เพียงราว 1 MBytes เท่านั้น
ดังนั้นขนาดของเพลงทั่วไปที่ยาวราว 3-5 นาที ก็จะใช้พื้นที่จัดเก็บเพียง 3-5 MBytes เท่านั้น โดยที่คุณภาพของเสียงที่เราได้ยิน
เมื่อเทียบกับเสียงที่เราได้ฟังจากแผ่น CD นั้น ลดทอนลงไปเพียง 10% จากคุณภาพเสียงของ CD เพลง คิดจากอัตราการบีบอัด
(bitrate)โหลดmp3 ">โหลดmp3 125 Kbps ที่ความถี่ (frequecy) โหลดmp3 44 KHz (หูธรรมดาๆ อย่างผมน่ะมันฟังไม่ออก ใครหูทองบอกผมทีมันต่างกันตรงไหน)
จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็นิยมสำหรับในหมู่นักฟังเพลงทั่วไปเท่านั้น แต่สำหรับตัวผู้ผลิดนั้นใน
ขั้นตอนการบันทึกเพื่อการผลิตให้คงคุณภาพเสียงสูงที่สุด ก็ยังคงจะนิยมบันทึกเสียงให้คงอยู่ในรูปแบบ "เวฟไฟล์" ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น